ช่วงนี้เพื่อนๆ ที่ขายสินค้าในชอปปี้ และ ลาซาด้า น่าจะได้เห็น ป้ายเตือน เกี่ยวกับ "สินค้าควบคุมฉลาก" ว่าร้านค้านั้น จะต้องจัดทำ "ฉลากภาษาไทย" ที่มีรายละเอียดครบตามกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
โอ้โหศัพท์ยากขนาดนี้ อ่านแล้วมึนไป 3 วิ PS จะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้จ้า "สินค้าควบคุมฉลาก" หรือ ฉลากที่จะต้องจัดทำนั้น ก็คือ "ฉลากสคบ." หรือ "สติ๊กเกอร์ สคบ. " นั่นเอง
สินค้าอะไรบ้าง ที่ต้องติด "สินค้าควบคุมฉลาก" หรือ "ป้ายสคบ." ?
คำตอบคือ สินค้าทุกชนิดที่จำหน่ายในจุดกระจายสินค้า หรือ ฝากขาย รวมถึง การขายสินค้าออนไลน์ และไลฟ์สด พูดง่ายๆ คือ การขายสินค้าที่ไม่ใช่การซื้อแบบต่อหน้าต่อตา ซื้อโดยที่ผู้ซื้อกับผู้ขายไม่ได้เจอกันควรติดป้ายสคบ. เพื่อให้คนซื้อ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เค้าซื้อ และสามารถติดต่อคนขาย หรือผู้จัดจำหน่ายได้ ฟ้องร้องได้ในกรณีที่สินค้ามีปัญหานั่นเอง
สินค้าที่ทำป้ายติดเองได้เลย อาทิเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่สินค้าที่ต้องควบคุมหรือมีความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ที่เราเป็นคนผลิตสินค้านั้นขึ้นมาเอง อย่างเช่น ไม้ขีดไฟ ของเล่นเด็ก ผงซักฟอก แชมพู สบู่ อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ยา เครื่องสำอางค์ ต้องติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอเลขที่ใบอนุญาต อ.ย. เลขที่จดแจ้ง มอก. เป็นต้น กรณีที่รับสินค้าเหล่านี้มาจำหน่ายต่อ ควรจะมีเลขรับรองเหล่านี้มาแล้ว ถ้าไม่มี แสดงว่าสินค้านั้นไม่ได้มาตรฐาน ไม่ควรนำมาขายนะคะ
ถ้าไม่แน่ใจว่า สินค้าที่เราผลิตเพื่อจำหน่าย หรือ นำมาจำหน่ายต่อ ต้องขอเลขอะไรหรือไม่ ให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ที่เบอร์ 02 389 5980 ต่อ 106, 107, 109
ข้อมูลที่ต้องมีในป้าย "สินค้าควบคุมฉลาก" ต้องมีอะไรบ้าง?
ข้อมูลที่ต้องระบุในป้าย "สินค้าควบคุมฉลาก" มีดังนี้
1. ประเภท, ชื่อ, หรือชนิดของสินค้า
2. ชื่อเต็มผู้จัดจำหน่าย หรือ นำเข้า ต้องระบุประเทศด้วย
3. เครื่องหมาย เลขสารบบอาหาร(อย.), เลขที่ใบรับแจ้ง, มผช.
4. ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
5. ขนาด ปริมาตร หรือ น้ำหนัก ของสินค้า
6. วิธีการใช้สินค้า
7. ข้อแนะนำ หรือ คำเตือน (ถ้ามี)
8. วันเดือนปีที่ผลิต และ หมดอายุ
9. ราคาพร้อมระบุหน่วยบาท
** ในกรณีที่ผู้จัดจำหน่าย เป็นบุคคลธรรมดา ไม่ได้เป็นบริษัท สามารถระบุเป็นชื่อนามสกุล ที่อยู่ของผู้จัดจำหน่ายได้เลย